กระดาษในยุคนี้นั้นก็มีให้เราได้เลือกใช้งานกันเยอะเป็นอย่างมากโดยส่วนใหญ่การพัฒนากระดาษในทุกวันนี้ก็ได้มีนวัตกรรมใหม่ๆที่ออกมากันเยอะมากจริงๆทำให้กระดาษแต่ละชนิดก็จะมีความแตกต่างกันออกไป มีความคงทน ความหนา ความบาง ที่สำคัญกระดาษแต่ละรูปปแบบก็จะไม่เหมือนกันอีกด้วย
ถ้าหากเราสามารถที่จะเลือกใช้กระดาษได้อย่างดีและสามารถที่จะตอบโจทย์กับการออกแบบและพัฒนากล่องกระดาษได้นั้นมันก็ย่อมจะทำให้กล่องบรรจุภัณฑ์ของเรา มีความสมบูรณ์แบบเพิ่มมากยิ่งขึ้น และทำให้การเพิ่มมูลค่าของสินค้าของเราก็จะเป็นไปได้ด้วยดี
การเลือกใช้กระดาษมาทำกล่องบรรจุภัณฑ์
การเลือกใช้กระดาษมาทำกล่องบรรจุภัณฑ์นั้น เราก็จะต้องเลือกใช้กระดาษให้มันมีความเหมาะสมให้ได้มากที่สุดถ้าเราเลือกดีความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นก็จะมีน้อย ฉะนั้นในยุคนี้ก็อย่างที่บอกไปว่ากระดาษก็มีให้เราได้เลือกใช้งานกันเป็นจำนวนมากแต่
ถ้าหากเราจะเลือกให้มันเหมาะสมได้มากสุดก็น่าจะเป็นกระดาษลูกฟูกแน่นอนกระดาษชนิดนี้นั้นก็จะเป็นกระดาษที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ได้ในทุกๆ การใช้งาน แต่ข้อเสีย มันก็อาจจะไม่ค่อยสวยงามสักเท่าไร จะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาล ถ้านำมาใส่สีหรืออกแบบมันก็ไม่น่าสนใจ สำหรับกระดาษที่มักจะเลือกนำมา ทำกล่องบรรจุภัณฑ์ ส่วนใหญ่ก็มักจะมีดังต่อไปนี้
5 กระดาษที่เลือกมาทำกล่องบรรจุภัณฑ์
1.กระดาษลูกฟูก เป็นอีกหนึ่งกระดาษที่มีความพิเศษและมีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก มันจะช่วยทำให้กล่องบรรจุภัณฑ์ของเรามีความคงทนและมีความสมบูรณ์แบบสุดๆ ไปเลย ซึ่งแต่ละโรงพิมพ์นั้นก็จะมีเทคนิคในการออกแบบที่แตกต่างกันออกไป
ในการเลือกใช้กระดาษลูกฟูกมันอาจจะเหมาะกับการจัดส่งสินค้าไปตามสถานที่ต่างๆ ซะมากกว่า แต่ถ้าจะให้เลือกนำมาเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์หลักนั้นมันก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ได้ดีเท่าที่ควร เพราะอย่างที่รู้กันว่ากระดาษชนิดนี้มันไม่สวยงามอะไรเลย มีแค่เพียงสีน้ำตาลและเป็นลักษณะลอนๆ
การที่จะมาออกแบบและตบแต่งให้โดดเด่น มันก็ยากอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าหากใครที่มีไอเดียหรือมีความคิดสร้างสรรค์ที่ดีนั้น การเลือกใช้กระดาษชนิดนี้ถือได้ว่าตอบโจทย์ได้ดีเป็นอย่างมาก
2.กระดาษอาร์ตการ์ด เป็นอีกหนึ่งกระดาษที่นิยมเลือกใช้ในการผลิตโดยกระดาษชนิดนี้ก็สามารถที่จะนำมาทำเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ได้อย่างมากมาย โดยมันจะทำให้การพิมพ์ชิ้นงานนั้นก็จะออกมาดูดีมีความสวยสดงดงามเป็นอย่างมาก
กระดาษอาร์ตนั้นก็น่าจะเหมาะกับการนำไปทำพวกกล่องเครื่องสำอางค์ชนิดต่างๆ เช่น กล่องสบู่ กล่องครีม กล่องขนม และอื่นๆอีกมากมาย เพราะเวลาที่เราพิมพ์สีสันลงไปมันก็จะทำให้กล่องชนิดนี้มีความโดดเด่นที่ลงตัวเป็นอย่างมาก
ส่วนความหนาที่นิยมเลือกใช้งานนั้นนั้นก็จะมีตั้งแต่ 270-400 แกรมด้วยกัน เลยทำให้กระดาษอาร์ตก็เหมาะสมกับการนำมาทำเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์อย่างมากที่สุด
3.กระดาษคราฟท์สีน้ำตาล กระดาษชนิดนี้นั้นหลายๆคนก็มักจะรู้จักในนามของกระดาษรีไซเคิลซะมากกว่าโดยจะเป็นกระดาษที่มีสีน้ำตาล จะนิยมเลือกทำเป็นกล่องกระดาษอยู่เหมือนกัน
ส่วนใหญ่แล้วการนำกระดาษชนิดนี้ไปทำกล่องบรรจุภัณฑ์ก็ยังได้รับความนิยมอยู่เป็นอย่างมากมันมีความโดดเด่นที่เฉพาะตัวมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ถ้าออกแบบและจัดวางมาดีๆ มันก็มีความสวยงามไม่แพ้กับการะดาษอาร์ตเลย
4.กระดาษฟอยล์ กระดาษชนิดนี้ก็จะเป็นกระดาษที่มีลักษณะเป็นสีขาว แต่อีกด้านหนึ่งนั้นก็จะมีลักษณะเป็นฟอยด์สีเงิน และกระดาษฟอยล์นั้นก็จะมีราคาที่แพงเป็นอย่างมากด้วย แต่เมื่อเราใช้จริงๆ แล้วมันก็จะทำให้กล่องนั้นออกมาดูดีได้มีความหรูหรา มีความสวยงาม ที่สำคัญมันสามารถที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของเราได้เยอะมากจริงๆ
การเลือกใช้กระดาษฟอยล์เราก็ควรที่จะต้องเลือกให้มันตอบโจทย์และเหมาะสมให้ได้มากที่สุด ถ้าสินค้าของเราไม่พรีเมี่ยมจริงๆ เราก็ไม่ควรที่จะเลือกกระดาษชนิดนี้มาทำเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์
5.กระดาษแป้งหลังขาวและหลังเทา กระดาษทั้งสองชนิดนี้ก็จะเป็นกระดาษที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกันแต่จะมีความแตกต่างก็ตรงที่ด้านหลังของกระดาษนั้นก็จะมีเป็นสีขาวกับสีเทาโดยทั้งสองสีนี้ก็ถือเป็นสีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
กระดาษชนิดนี้มีราคาที่ถูก สามารถที่จะหาซื้อได้ง่ายอีกด้วยไม่ว่าจะนำไปทำเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์อะไรก็ตามแต่มันก็จะมีความเหมาะสมและลงตัวแบบสุดๆทำให้สินค้าที่อยู่ในกล่องบรรจุภัณฑ์นี้ก็ดูดีได้เช่นกัน
สรุป
กระดาษไม่ว่าจะเป็นแบบไหนความหนาเท่าไรสีอะไรก็ตามเราก็ควรที่จะต้องเลือกใช้กระดาษให้มันโอเคกับสินค้าให้ได้มากที่สุดรวมถึงการออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ เราก็จะต้องทำอย่างไรก็ได้มันลงตัวและเหมาะสมกับสินค้าของเราถ้าเราสามารถที่จะออกแบบและเลือกใช้กระดาษได้เป็นอย่างดีสามารถที่จะตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าได้มันก็จะส่งผลดีต่อสินค้าของเราเป็นอย่างมาก
การเลือกใช้กระดาษให้ตอบโจทย์มันก็มีผลต่ออะไรหลายๆอย่างดังนั้นเราก็จะต้องเลือกกระดาษที่จะนำมาทำเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์ให้มันลงตัวและเหมาะสมกับสินค้าของเราจะได้ทำให้สินค้าของเรามีจุดเด่นและมีความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร